เทคนิค(ลับ) “เคลียร์ประวัติเครดิตบูโร” ให้ขาวสะอาดก่อนยื่นสินเชื่อ!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการยื่นเรื่องของสินเชื่อแต่ละครั้ง ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติทางการเงินของคุณอย่างละเอียดยิบ! ซึ่งถ้าหากคุณติดแบล็คลิสหรือติดเครดิตบูโรอยู่ล่ะก็ เราก็ขอบอกเลยว่าโอกาสที่คุณจะได้รับการอนุมัตินั้นแทบจะกลายเป็น 0 เลยก็ว่าได้ ดังนั้นก่อนการยื่นเรื่องขอสินเชื่อคุณจึงต้องเคลียร์ประวัติเครดิตบูโรหรือประวัติทางการเงินให้ขาวสะอาดเสียก่อน และด้วยเหตุนี้เองเราจึงได้นำเทคนิค(ลับ)ในการเคลียร์ประวัติเครดิตบูโรมาฝาก ซึ่งจะมีเทคนิคหรือวิธีการไหนบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย!
เทคนิค(ลับ) ที่จะช่วยทำให้ประวัติทางการเงินของคุณกลับมาขาวสะอาด
สำหรับใครที่รู้ตัวอยู่แล้วว่ามีประวัติทางการเงินที่ไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นการติดแบล็คลิสหรือติดเครดิตบูโร เราก็ขอให้คุณนำเทคนิค(ลับ) ที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้ไปปรับใช้ ซึ่งเรารับรองเลยว่าประวัติทางการเงินของคุณจะกลับมาขาวสะอาดได้อย่างแน่นอน โดยเราไปเริ่มกันที่…
1.ติดต่อทางธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
อันดับแรกให้คุณติดต่อกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อเจรจาขอผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้ออกไป เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่และหาทางทำสัญญาเพิ่มเติม ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้การเจรจาพูดคุยกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยตรง ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรือน่ากลัวแต่อย่างใด อีกทั้งคุณอาจจะได้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เฉพาะทางในการปรับโครงสร้างหนี้อีกด้วย
2.ชำระหนี้ให้ตรงเวลา ห้ามผิดนัดอย่างเด็ดขาด!
เมื่อคุณเจรจากับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาคือคุณต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลา ห้ามผิดนัดชำระอย่างเด็ดขาด! ไม่เช่นนั้นประวัติทางการเงินของคุณก็จะวนลูปเป็นแบบเดิม หรือเรียกง่ายๆ ว่าคุณก็จะติดแบล็คลิสหรือมีประวัติเครดิตบูโรที่ไม่สวยงามต่อไปไม่จบไม่สิ้น และที่สำคัญเลยก็คือให้คุณเก็บหลักฐานการชำระหนี้ทุกๆ ใบไว้ให้ดี เพราะเอกสารในส่วนนี้จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าคุณได้ชำระหนี้ตรงตามเวลา และคุณยังสามารถนำเอกสารในส่วนนี้ไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ในการยื่นเรื่องขอกู้สินเชื่อ(ครั้งใหม่)ได้อีกด้วย
3.เมื่อคุณชำระหนี้จนครบแล้วให้เช็คเครดิตบูโรอีกครั้ง
หลังจากที่คุณผ่อนชำระหนี้(ที่ทำให้คุณติดแบล็คลิส)จนหมด! ลำดับต่อมาคือให้คุณไปตรวจเช็คข้อมูลเครดิตบูโรอีกครั้ง ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองได้ทางศูนย์บริการตรวจเครดิตบูโรหรือผ่านแอพพลิเคชั่นของทางธนาคาร ทั้งนี้การตรวจเช็คเครดิตบูโรนั้นก็เพื่อตรวจสอบว่าทางธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เจ้าหนี้ได้แจ้งเปลี่ยนข้อมูลไปหรือยัง ? เนื่องจากข้อมูลต่างๆ จะถูกบันทึกอยู่ในประวัติเครดิตบูโรอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งระยะเวลาที่เครดิตบูโรจะลบข้อมูลนั้น(ทำให้ประวัติทางการเงินของคุณขาวสะอาด) จะใช้ระยะเวลาประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี เป็นอย่างต่ำ!
ซึ่งหลังจากที่คุณทำตามทั้ง 3 ขั้นตอนที่เราได้กล่าวไป ประวัติทางการเงินของคุณก็จะสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของข้อ 2 นั้น มีความสำคัญมากที่สุด! พยายามชำระหนี้ให้ตรงเวลาเพื่อที่คุณจะได้ทำเรื่องขอกู้สินเชื่อ(ครั้งใหม่) ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
รายละเอียดข้างต้นถือได้ว่าเป็นเทคนิค(ลับ) ที่จะช่วยทำให้ประวัติทางการเงินหรือประวัติเครดิตบูโรของคุณนั้นกลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อประวัติทางการเงินของคุณสวยงามไม่มีการติดแบล็คลิสหรือติดเครดิตบูโรแล้ว โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็จะสูงขึ้น! ดังนั้นการเคลียร์ประวัติทางการเงินหรือเคลียร์ประวัติบูโรจึงกลายเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรจะมองข้ามหากต้องการเงินก้อนจากการขอสินเชื่อ และสำหรับใครที่ยังสับสนว่าจะยื่นเรื่องกู้สินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งไหนดี ? คุณก็สามารถเข้ามาเปรียบเทียบรายละเอียดของตัวสินเชื่อต่างๆ ได้ที่ Rabbit Care เว็บไซต์ที่จะทำให้การขอสินเชื่อเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว!